Friday, May 15, 2015

วิธีการคิดต้นทุน NAV ของ App FIN กองทุนรวม Mutual Fund ใช้เป็นแบบ FIFO ครับ

วิธีการคิดต้นทุน NAV ที่ใช้ใน FIN ส่วนของ Portfolio (ช่อง Cost ในหน้า Portfolio ของ App FIN ตามรูปตัวอย่างด้านล่าง) ผมใช้เป็นแบบ FIFO นะครับ ทีนี้เพื่อให้ชัดเจนสำหรับท่านที่ยังไม่ทราบว่า FIFO คิดอย่างไร เลยเขียนมาบรรยายเพิ่มเติมนิดนึงฮะ

ส่วนใครที่ยังไม่ได้ใช้ FIN ลองโหลดมาใช้ครับ ที่ https://itunes.apple.com/th/app/fin-app-kxngthun-rwm-mutual/id972662339?mt=8



ปกติการลงต้นทุนของสินค้าในบัญชีจะมี 3 ระบบหลัก คือ แบบ Average, FIFO, LIFO

# Average จะเป็นการรวมราคาต้นทุนที่ซื้อไว้ทั้งหมดหารด้วยจำนวนหน่วยที่เหลือ
# FIFO (First in First out) สินค้าเข้าก่อนคิดเป็นต้นทุนออกก่อน คำนวณโดยเอาราคาต้นทุนสินค้าที่ซื้อเข้ามาก่อนเป็นต้นทุนหากมีการขายออกไป 
# LIFO (Last in First out) สินค้าที่เข้ามาหลังสุด คิดเป็นต้นทุนออกไปก่อน คำนวณโดยเอาราคาต้นทุนสินค้าที่ซื้อหลังสุดเป็นต้นทุนหากมีการขายออกไป

ซึ่งโดยมากวิธีการคิดต้นทุน NAV กองทุนรวมจะใช้แบบ FIFO และ Average เป็นส่วนใหญ่ และเนื่องจากระบบ FIFO เป็นระบบที่ใช้ในการคิดต้นทุนกองทุนรวม LTF ตามกำหนดการเสียภาษี
ตัวอย่าง
Day 1 ซื้อ กองทุน A @ 10 B จำนวน 100 หน่วย
Day 2 ซื้อ กองทุน A @ 12 B จำนวน 200 หน่วย
Day 3 ซื้อ กองทุน A @ 15 B จำนวน 50 หน่วย
Day 4 ขาย กองทุน A @ 16 B จำนวน 100 หน่วย
Day 5 ขาย กองทุน A @ 20 B จำนวน 250 หน่วย

วิธีการคำนวณ แบบ FIFO
เมื่อมีการขายเกิดขึ้นจะคิดต้นทุนราคาของหน่วยที่ราคา 10 บาท ก่อน ดังนั้น ขายราคาที่ 16 - 10 บาทจะรับรู้กำไรที่ 6 บาท หลังจากขายวันที่ 4 แล้วสามารถหา average ณ Day 4 ของ FIFO ได้ 12.6

วิธีการคำนวณ แบบ Average
คิดคำนวณ Average ทุกครั้งที่มีการซื้อหน่วยลงทุนมาเพิ่ม หากมีการขายออก ต้นทุนเฉลี่ยจะยังคงเดิม

ข้อสังเกตุ
ทั้ง 2 วิธี หากมีแต่การซื้อหน่วยลงทุนอย่างเดียว ค่าเฉลี่ยที่ได้จะเท่ากัน
แม้ว่าต้นทุนจะแตกต่างกัน แต่ว่าผลสุดท้ายถ้าขายหมดก็จะได้กำไรเท่ากัน
ข้อมูลเพิ่มเติมลองดูตัวอย่างที่:https://www.nomuradirect.com/th/help/information-faqs.aspx

No comments:

Post a Comment