Saturday, March 7, 2015

ลงทุนกองทุนรวม ผมมองว่ามันดีอย่างไร ?

ประเภทนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทยมีอยู่ 4 กลุ่มด้วยกัน  ตามภาพด้านล่าง

  • กลุ่ม นักลงทุนสถาบัน อันนี้จะมีพวก บลจ. กองทุนรวมค่ายต่างๆ รวมถึง กลุ่ม ประกันสังคม กบข. และ อื่นๆ ที่อยู่ในรูปแบบของสถาบัน 
  • กลุ่ม บัญชี บล.  อันนี้ ที่เรารู้จักกันในนาน Proprietary Trader (ป๊อบเทรด  ป๊อบเดส) นั่นเอง a.k.a ปอบ ที่ผู้ใช้ Pantip Sinthorn พูดถึงกันนั่นเอง 
  • กลุ่ม นักลงทุนต่างประเทศ ก็ชัดเจน พวกต่างชาติ
  • กลุ่ม นักลงทุนภายในประเทศ  ก็มีตั้งแต่ รายย่อย จนถึง รายใหญ่ รวมเข้าก๊ก นี้หมด 


โดยส่วนตัว ผมเคยเทรดทั้ง หุ้น, SET50 Futures มาหมดแล้ว  กำไร/ขาดทุน ผสมปนเปกันไป  แต่เนื่องจาก เราไม่ได้ทำอาชีพนั่งเทรดเป็นอาชีพหลัก  ดังนั้นจะค่อนข้างลำบากที่จะ "เทรดให้ได้ดีอย่างต่อเนื่อง"  ดังนั้น ช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาจากการทดลองดูแล้ว  ใช้บริการ บลจ. กองทุนรวม นั้น ให้ความรู้สึกที่ดีที่สุดครับ

มันเหมือนเป็นการ Off-load หน้าที่ ความรับผิดชอบตรงนี้ ให้ผู้เชี่ยวชาญดูแลโดยแบ่งค่าตอบแทนเป็นไปในลักษณะค่าบริหารจัดการ  น่าจะดีกว่าดูเอง เพราะ เอาเวลาหลักไปทำงานที่ตัวเองมีความรู้ ความสามารถ ทำประโยชน์ให้เกิดแก่คนอื่น น่าจะเหมาะสมกว่า   เลยเป็นที่มาว่าทำไม ชอบลงทุนผ่านกองทุนรวม ของ บลจ. ต่างๆ นั่นเอง   อีกเหตุผลนึงคือ เราไม่ต้องเสียสุขภาพจิต ที่จะต้องมาออกรบ กับ เสือ สิง กระทิง แรด กับกลุ่มนักลงทุนอื่นๆ ที่มีข้อมูลข่าวสาร ลึกกว่าเราแน่ๆ

ที่นี้ กองทุนต่างๆ นั้นก็มีจำนวนมากมาย โดยในไทยนั้น กองทุนทั้งหมดตอนนี้ มีอยู่ แถวๆ 1300-1500 กองทุน ซึ่งมีหลากหลายประเภท ทั้ง ลงทุนในประเทศ ต่างประเทศ เป็นแบบ กองทุนเปิด  LTF, RMF, Money Market, Bond หลากหลายมาก  เลยจะเจอปัญหาหลายๆ อย่างจนบีบบังคับให้ผมสร้าง FIN Application ขึ้นมานั่นเอง  (FIN คืออะไร อ่านได้จาก Link นี้ -- http://www.fin.cool/2015/03/fin.html)

ทีนี้ มามองกันในมุมผลตอบแทนบ้าง แน่นอนครับ  มันมีทั้งกำไร และ ขาดทุนแน่นอน

ถ้าทุกอย่างไปได้ด้วยดี  กองทุนที่ดีในกลุ่ม Top5 ทั้งที่ลงทุนในต่างประเทศ และ ภายในประเทศ โอกาสกำไร ต่อ 1 ปี  ก็สามารถมองให้เห็นได้ที่ระดับ  30-45%  ก็จะมีให้เห็นได้

Performance กองทุนรวมที่ลงทุนภายในประเทศ ผลตอบแทน 1 ปีย้อนหลังจากวันที่ 6 มีนาคม 2558 

Performance กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ ผลตอบแทน 1 ปีย้อนหลังจากวันที่ 5 หรือ 6 มีนาคม 2558

คือ นี่คือ "กรณีที่เลือกกองทุนได้ถูกกอง" และ "แนวโน้มตลาดภาพรวมมันดี"  มันก็จะได้ผลตอบแทน แถวๆ นี้ล่ะครับ  ซึ่งถ้าพอใจในระดับนี้ และ เอาเวลาส่วนตัวไปทำอย่างอื่น ที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิตในภาพรวม ก็ ลงทุนผ่านกองทุนรวมเลยครับ เป็น Solution ที่น่าจะดีที่สุด

แต่ผลตอบแทนระดับนี้ ก็ไม่ทำให้เรา รวยระดับที่ นักสร้างธุรกิจเขาทำธุรกิจกันนะครับ  อันนั้นผลตอบแทนมันคนละ scale  กัน เทียบกันยาก   ให้มองซะว่า  การลงทุนผ่านกองทุนรวมนั้นเอาไว้จัดการกับ "เงินเย็น" ของเรา โดยที่เราไม่ต้องจัดการยุ่งอะไรเองมาก  ให้ "เงินเย็น" ทำงานผ่านกองทุนรวมขนานกันไป ผลตอบแทนถ้าดี ก็อยู่แถวๆ 30-50% ต่อปี ก็พอทำได้    ส่วนเวลาหลักของชีวิตของเรา เอาไปสร้างธุรกิจที่ใช้ความรู้ ความสามารถของเราเอง  น่าจะได้อะไรที่ สนุก ท้าทายไปในอีกรูปแบบ

หรือ คิดว่าอย่างไรกันครับ ??

No comments:

Post a Comment